ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับ Buffer Memory ในอุปกรณ์ CDRW Drive
Buffer Memory ที่มีอยู่ใน CDRW Drive จะทำหน้าที่เป็นที่พักข้อมูลให้กับ CDRW Drive ก่อนนำไปบันทึกลงแผ่น CD โดยการยิงแสงเลเซอร์ให้เซาะร่องเล็กๆ บนแนววงแหวนสำหรับแผ่น CD-R หรือใช้วิธีเปลี่ยนคุณสมบัติของสารเคมีให้เป็นจุดแทนค่าทางไฟฟ้าสำหรับแผ่น CDRW
ขนาดของ Buffer Memory2MBหรือ 8MB มีผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของ CDRW Drive แค่ไหน?
เมื่อมีการสั่งให้ CDRW Drive อ่าน/เขียนข้อมูล CPU จะทำหน้าที่ตรวจหาตำแหน่งของข้อมูลจากนั้นจึงจะส่งข้อมูลไปเก็บไว้ที่ Buffer Memory ภายใน CDRW Drive โดยผ่านโหมดการรับส่งข้อมูลแบบ IDE/ATA ซึ่งนิยมเลือกใช้กันอยู่ 2 แบบในปัจจุบันคือ PIO Mode 4 และ Ultra DMA Mode 2 สำหรับการเลือกใช้โหมดการรับส่งข้อมูลดังกล่าวจะทำให้วิธีการทำงานของ CDRW Drive แตกต่างกัน เช่น PIO Mode 4 ที่มีการรับส่งข้อมูลเพียง 16.6 MB/s หากเลือก Buffer Memory ที่มีขนาดใหญ่คือ 8 MB.จะช่วยให้ปริมาณของข้อมูลเพียงพอและสัมพันธ์กับความเร็วในการเขียน เพราะหากข้อมูลใน Buffer Memory มีปริมาณที่ไม่เพียงพอต่อการเขียนจะทำให้ส่วนควบคุมหยุดการเขียนทันทีและไม่สามารถทำงานต่อไปได้ ซึ่งจะตรงกันข้ามกับ Ultra DMA Mode 2 ที่สามารถรับส่งข้อมูลได้ถึง 33.3 MB/s ทำให้มีความเร็วในการรับส่งข้อมูลสูงและสัมพันธ์กับความเร็วในการเขียนจึงไม่มีความจำเป็นต้องใช้ Buffer Memory ที่มีขนาดใหญ่ก็เพียงพอต่อการทำงานแล้วโดยมักจะเลือกขนาดของ Buffer Memory ที่ 2 MB. นอกจากนี้ CDRW Drive ที่มีใช้กันอยู่ในปัจจุบันยังสนับสนุนเทคโนโลยีเกี่ยวกับการควบคุมและจัดการกับข้อมูลใน Buffer Memory เรียกว่า Burn-Proof (Buffer Under Run Proof )หรือ SMART-BURN ใน LITE-ON โดยทำหน้าที่ตรวจสอบปริมาณของข้อมูลในการรับส่งระหว่างอุปกรณ์เป็นหลัก และหากเกิดปัญหาในการรับส่งข้อมูลไม่ทันก็จะทำการสั่งให้ส่วนที่ทำหน้าที่ควบคุมการเขียนแผ่น CD หยุดการเขียนทันทีเพื่อรอจนกว่าจะมีการส่งข้อมูลมาที่ Buffer Memory ในปริมาณที่เพียงพอและสัมพันธ์กับความเร็วในการเขียนข้อมูล จึงจะเริ่มทำการเขียนที่จุดสุดท้ายต่อจากข้อมูลเดิม ทำให้ข้อมูลมีความต่อเนื่องและสามารถใช้งานได้ ทำให้ Buffer Memory 2 MB.หรือ 8 MB. ไม่มีความแตกต่างจากการใช้งานและประสิทธิภาพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น